I Ching กับการชาร์จหิน: เปิดพลังจักรวาลด้วยฤกษ์มงคล

Last updated: 1 มี.ค. 2568  |  27 จำนวนผู้เข้าชม  | 

I Ching กับการชาร์จหิน: เปิดพลังจักรวาลด้วยฤกษ์มงคล

การชาร์จพลังงานให้หินหรือคริสตัลเป็นกระบวนการที่นิยมทำเพื่อฟื้นฟูและเสริมพลังงานด้านบวกให้กับหิน โดยทั่วไปมีหลายวิธีเช่นการใช้แสงจันทร์ แสงแดด แช่น้ำ หรือฝังดิน ซึ่งล้วนใช้พลังธาตุธรรมชาติในการชำระล้างและเติมพลังให้หิน

อย่างไรก็ตาม แนวทางหนึ่งที่น่าสนใจคือการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาและการพยากรณ์จีนโบราณอย่าง “อี้จิง” (I Ching, 易經) ในการกำหนด ฤกษ์มงคล หรือเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชาร์จหิน แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าอี้จิงเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของพลังงาน (หยิน-หยาง) และธาตุต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้ช่วยเลือกช่วงเวลาที่พลังงานของจักรวาลเอื้ออำนวยต่อการเสริมพลังงานให้หินได้

บทความนี้จะอธิบายหลักการของอี้จิงที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและธาตุ แนวทางการใช้ศาสตร์อี้จิงในการเลือกฤกษ์ชาร์จหิน ตลอดจนเปรียบเทียบข้อดีของวิธีนี้กับการชาร์จหินด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น แสงจันทร์ แสงแดด น้ำ และพลังธาตุธรรมชาติ พร้อมอ้างอิงข้อมูลจากทั้งศาสตร์จีนโบราณและการปฏิบัติในยุคปัจจุบัน

หลักการอี้จิงที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ธาตุ และฤกษ์มงคล
 หยิน-หยางและพลังชี่: คัมภีร์อี้จิง (หรือ “คัมภีร์แห่งการเปลี่ยนแปลง”) เป็นศาสตร์พยากรณ์ที่มีพื้นฐานมาจากปรัชญาหยิน-หยาง ซึ่งมองว่าพลังงานในจักรวาลมีการเปลี่ยนแปลงหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา

 พลังงานที่สมดุลระหว่างหยิน (พลังนิ่ง มืด เย็น) และหยาง (พลังเคลื่อนไหว สว่าง ร้อน) จะก่อให้เกิดความเป็นมงคล ในทำนองเดียวกับวิชาอื่น ๆ ของจีน อี้จิงยังผนวกหลักธาตุทั้งห้า (五行, อู่싱) ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน โลหะ น้ำ ไว้ด้วย เพื่อใช้อธิบายคุณลักษณะของพลังงานแต่ละรูปแบบให้ละเอียดขึ้น​


พลังชี่ (氣) ซึ่งเป็นพลังชีวิตที่แฝงอยู่ในทุกสรรพสิ่งจะไหลเวียนตามหลักหยิน-หยางและแปรเปลี่ยนผ่านธาตุทั้งห้า ดังนั้นการทำกิจกรรมใด ๆ ให้สอดคล้องกับการไหลของชี่และรอบธาตุธรรมชาติจึงถือเป็นเคล็ดให้เกิดความโชคดีหรือเกิดผลสำเร็จตามความเชื่อจีนโบราณ โดยมีบันทึกว่า “พลังชี่ของทุกทิศทางล้วนอยู่ใต้ธาตุทั้งห้า การดำเนินชีวิตสอดคล้องกับชี่ย่อมนำโชคดีมาและช่วยให้ทุกอย่างราบรื่น”​

แปดกลุ่มพลัง (Bagua) และธาตุ อี้จิงประกอบด้วย 8 เบ้าหรือ “ปากว้า” (八卦) ซึ่งเป็นสามเส้นหยิน/หยางเรียงกันที่เรียกว่า “ข่วย” แทนพลังธรรมชาติพื้นฐาน 8 อย่าง

แต่ละข่วยมีชื่อและความหมายเฉพาะ เช่น

  • เฉียน (乾) แทนฟ้า/สวรรค์,
  • คุน (坤) แทนดิน
  • คาน (坎) แทนน้ำ
  • หลี (離) แทนไฟ
  • เจิ้น (震) แทนสายฟ้าหรือฟ้าร้อง
  • ซวิ้น (巽) แทนลม
  • ตุย (兌) แทนทะเลสาบ/สายน้ำเล็ก
  • เกิ้น (艮) แทนภูเขา​

 นอกจากนี้ข่วยยังสัมพันธ์กับช่วงเวลาและฤดูกาลด้วย เช่น ในผังปากว้าแบบฟ้าหลัง (Later Heaven Bagua) ที่ใช้ในฮวงจุ้ย ข่วยหลี (ไฟ) อยู่ตำแหน่งทิศใต้ สื่อถึง ฤดูร้อนและเวลาเที่ยงวัน (ช่วงพลังหยางสูงสุด) ขณะที่ ข่วยคาน (น้ำ) อยู่ตำแหน่งทิศเหนือ สื่อถึง ฤดูหนาวและเที่ยงคืน (ช่วงพลังหยินสูงสุด)​

 ส่วน ข่วยเจิ้น (สายฟ้า) และ ซวิ้น (ลม) อยู่ทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ สื่อถึง ฤดูใบไม้ผลิ/ยามเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่พลังชีวิตเริ่มต้นเบิกบาน (แทนธาตุไม้)​

การที่อี้จิงเชื่อมโยงสัญลักษณ์เหล่านี้กับเวลาและฤดูกาลสะท้อนให้เห็นว่า ในแนวคิดจีนนั้น เวลาที่แตกต่างกันย่อมมีคุณภาพพลังงานต่างกัน ดังนั้นการเลือกเวลาที่เหมาะสมกับกิจกรรมหรือวัตถุนั้น ๆ จึงสำคัญมากในการเสริมมงคล

ฤกษ์ยามและความเป็นมงคล: เป้าหมายสำคัญของการใช้อี้จิงคือการหาหนทางดำเนินการที่สอดคล้องกับ “เวลาแห่งความเป็นมงคล” หรือก็คือทำสิ่งที่ถูกที่ถูกเวลา คำทำนายแต่ละบทของอี้จิง (ซึ่งอยู่ในรูป “hexagram” หรือกว้า 6 เส้น) จะบรรยายสภาวะพลังงานขณะนั้นและมักระบุเป็นนัยว่าช่วงเวลานั้นๆ เป็นมงคล (吉) หรือ อัปมงคล (凶) เพียงใดต่อการกระทำบางอย่าง โดยรวมแล้วผู้อ่านสามารถจับใจความได้ว่า “กว้านี้ดีหรือร้าย” ต่อเรื่องที่ถาม​

เช่น กว้าเลข 1 เฉียน (ฟ้า) ที่ประกอบด้วยหยางทั้ง 6 เส้น ถือเป็นกว้าที่ดีมาก สื่อถึงความสำเร็จราบรื่น (หยางเต็มที่เปรียบเหมือนโชคกำลังรุ่งเรือง) ในทางกลับกัน กว้าเลข 2 คุน (ดิน) ที่เป็นหยินล้วน แม้ไม่ได้หมายความว่าร้าย แต่บ่งชี้พลังนิ่งสงบ ภายใน ซึ่งอาจไม่ใช่จังหวะแห่งการเริ่มต้นกิจใหม่ แต่เหมาะกับการบ่มเพาะเตรียมตัว​

นอกจากนี้บางช่วงคำทำนายในอี้จิงยังกล่าวถึงแง่มุมของเวลาอย่างชัดเจน เช่น “ก่อนฟักสามวัน หลังฟักสามวัน” เป็นสำนวนที่สื่อถึงการรอจังหวะที่เหมาะสมก่อนลงมือ เป็นต้น ซึ่งไม่ควรตีความตามตัวเลขตรง ๆ แต่เป็นการเน้นย้ำเรื่องการรอเวลาที่ดี​

ขงจื้อเองได้กล่าวอธิบายอี้จิงไว้ว่า “หากมนุษย์ดำเนินชีวิตโดยพึ่งพาอาศัย พลังแห่งฟ้าดินที่กลมกลืนและเกื้อหนุน ก็จะประสบความสำเร็จ”​

กล่าวคือ เราควรรู้จักจำกัดตนตามจังหวะและพลังของจักรวาล เมื่อใดที่สถานการณ์ยังไม่พร้อม การอดทนรอถือเป็นคุณธรรมหนึ่ง ในอี้จิงมีคำแนะนำว่า “หากยังไม่ใช่เวลาที่จะแก้ไขความยาก ให้หยุดนิ่งไว้ก่อน การหยุดนิ่งไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการยอมรับสภาพเพื่อรอเวลามงคลที่ดีกว่า”​

การปฏิบัติตามหลักนี้คือหัวใจของการเลือกฤกษ์มงคลตามภูมิปัญญาจีน ที่เชื่อว่าการทำการสิ่งใดให้ถูกเวลา ฟ้าเปิด โชคเอื้อ จะช่วยให้สำเร็จง่ายและราบรื่นกว่า

วิธีใช้ศาสตร์อี้จิงในการเลือกเวลาชาร์จหิน
การนำอี้จิงมาใช้เลือกเวลาที่เหมาะสมในการชาร์จพลังหิน สามารถทำได้หลายแนวทาง ดังนี้:

1. การพยากรณ์ถามฤกษ์ (Horary I Ching) นี่คือการใช้ศาสตร์อี้จิงโดยตรงในการตั้งคำถามเกี่ยวกับเวลาที่ควรชาร์จหิน ผู้ปฏิบัติจะสงบจิตแล้วตั้งจิตถามอี้จิง เช่น “เวลาหรือวิธีใดที่จะเหมาะสมที่สุดในการชาร์จพลังงานให้หินก้อนนี้?”

จากนั้นเสี่ยงทายหยิบยืมหรือโยนเหรียญ/แท่งยาฉีเพื่อให้ได้ กว้า (hexagram) สำหรับคำถามนี้ การตีความผลที่ได้จะบอกใบ้ว่าควรชาร์จหินเมื่อใดหรืออย่างไร เช่น หากได้กว้าที่มีความหมายมงคลสูง (เช่นกว้า “ไท่” หรือ “ความสันติ” ซึ่งสื่อถึงความสมดุลรุ่งเรือง) ก็อาจอนุมานได้ว่าช่วงเวลาปัจจุบันเอื้อต่อการชาร์จและหินจะได้รับพลังเต็มที่

แต่หากได้กว้าที่เตือนถึงอุปสรรค (เช่นกว้า “ปีด” หรือ “อับโชค/ชะงักงัน”) ก็อาจหมายความว่าช่วงนี้ยังไม่เหมาะ ควรรอจังหวะอื่น ในบางกรณี ข้อความคำทำนายในกว้า อาจระบุช่วงเวลาหรือเงื่อนไขด้วย เช่น อาจบอกให้ “รออีกสามเดือน” หรือ “ทำในวันที่ฟ้าโปร่ง” (สมมติ) เป็นต้น

ผู้เชี่ยวชาญสามารถตีความสัญลักษณ์เพิ่มเติม เช่น ธาตุของข่วย หรือ เส้นที่เปลี่ยน (changing lines) เพื่อชี้ว่าเมื่อเส้นนั้นเปลี่ยนจะนำไปสู่กว้าใหม่ที่ดีกว่า หมายถึงเวลาภายหน้าที่เหมาะสมกว่า วิธีนี้เป็นการใช้ศาสตร์อี้จิงแบบโหร (horary) ซึ่งตรงไปตรงมาในการตอบคำถามเรื่องเวลาที่ควรทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ดังที่มีผู้รู้กล่าวว่า “เราสามารถตรวจสอบ Hexagram ประจำวันเพื่อเลือกวันทำกิจกรรม หรือใช้การโยนเหรียญ/แท่งยาทำเป็นเครื่องมือบอกเวลาในการถามคำถามแบบ Horary ก็ได้”​

กล่าวคือ อี้จิงสามารถใช้ทั้งแบบดู “กว้าของวัน” เพื่อเลือกวันดี หรือใช้แบบถามตรงๆ เป็นครั้งๆ ไป

2. การเทียบกว้ากับปฏิทิน (Calendar Method) มีความพยายามในหมู่ซินแสบางท่านที่จะเชื่อมโยง 64 กว้าของอี้จิงเข้ากับระบบปฏิทินจีนหรือสากลเพื่อใช้เลือกวันมงคล เช่น มีการเสนอว่ากว้าทั้ง 64 อาจครอบคลุมวัฏจักรเวลา 1 ปีหรือมากกว่านั้น (เนื่องจาก 64 กว้ามี 384 เส้น หากเทียบ 384 วัน ~ 1 ปีทางจันทรคติ)

นอกจากนี้ในทางฮวงจุ้ย ปฏิทินจีนโบราณ (ปฏิทินโหรหรือ “ทงшу”) เองก็ใช้หลักรอบฟ้า-ดิน 60 ปี และวงจรฤดูกาล 24 ช่วง (節氣) ซึ่งสอดคล้องกับหลักหยิน-หยางและธาตุ เหล่านี้ล้วนมีรากฐานเชื่อมโยงกับอี้จิงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม วิธีที่เข้าใจง่ายกว่าคือการใช้ ความหมายของข่วยกับเวลาโดยตรง ดังกล่าวข้างต้น เช่น ถ้าหินที่ต้องการชาร์จมีพลังธาตุไฟเป็นหลัก (เช่นหินสีแดง ไทเกอร์อายส์ หรือซิทริน ซึ่งให้พลังความมั่นใจ ความคิดสร้างสรรค์) อาจเลือก ช่วงเวลา “หยาง” ที่ธาตุไฟโดดเด่น เช่น ตอนกลางวัน แดดอ่อน หรือวันในฤดูร้อน เป็นเวลาชาร์จเพื่อเสริมธาตุไฟให้หิน

ในทางกลับกัน ถ้าหินนั้นเกี่ยวข้องกับพลังเยียวยาจิตใจ สงบ หรือมีธาตุน้ำ/จันทร์เป็นหลัก (เช่นอเมทิสต์หรือมูนสโตน) การชาร์จใน คืนพระจันทร์เต็มดวง หรือช่วงกลางคืนที่สงบ (พลังหยินสูง) ก็จะสอดคล้องกับพลังของหินมากกว่า

ทั้งนี้ อี้จิงสามารถช่วยยืนยันหรือบอกใบ้ได้ เช่น หากลองเสี่ยงทายถาม “ควรชาร์จหินคืนนี้ดีไหม” แล้วได้คำตอบเป็นกว้าที่บวกและองค์ประกอบข่วยเป็นน้ำหรือดิน (หยิน) ก็ย่อมส่งเสริมการทำพิธีในคืนนั้น แต่หากได้ข่วยที่เป็นไฟ/สายฟ้า (หยางสูง) อาจแปลได้ว่าคืนนี้พลังไม่นิ่ง ควรรอไปทำตอนกลางวันหรือช่วงอื่น เป็นต้น

สรุปคือ วิธีนี้ใช้ความรู้เชิงสัญลักษณ์ของอี้จิงมาช่วยเลือกช่วงเวลาที่ธาตุและพลังแวดล้อมสอดคล้องกับหินที่จะชาร์จมากที่สุด ทำงานคล้ายหลัก “ธาตุสมพงษ์” ซึ่งทางตะวันตกก็มีแนวคิดคล้ายกัน เช่น ผู้รู้บางคนแนะนำว่าหากคริสตัลก้อนไหน “สัมพันธ์กับธาตุน้ำ ก็ควรล้างด้วยน้ำแล้วชาร์จด้วยแสงจันทร์; ถ้าเป็นธาตุไฟหรืออากาศ ควรล้างด้วยควันและชาร์จด้วยแดด; ถ้าเป็นธาตุดินให้ฝังดิน”​

การเลือกเช่นนี้สอดคล้องกับหลักอี้จิงที่ให้ชาร์จหินตอนธาตุนั้น ๆ มีกำลังแรง ซึ่งคือแนวคิดเดียวกับการหา “ฤกษ์ธาตุเกื้อหนุน”

3. การใช้ร่วมกับปฏิทินจีนแบบดั้งเดิม ในทางปฏิบัติ นักพยากรณ์จีนอาจใช้ทั้งอี้จิงและศาสตร์โหราศาสตร์จีนอื่น ๆ ควบคู่ เช่น ฉีเหมินตุ้นเจี่ย หรือ ทง-shu (ปฏิทินฤกษ์ยาม) เพื่อหาวันและเวลาที่เป็นมงคลสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการชาร์จหินสำหรับเป็นเครื่องรางมงคลจริงจัง อาจคำนวณวันธาตุทองธาตุน้ำที่สมพงษ์กับดวงเจ้าของ และเป็นวัน “เปิด” หรือ “สำเร็จ” ตามระบบ 12 วันจักร แล้วจึงใช้เวลานั้นจัดวางหินรับพลังพระจันทร์เต็มดวงอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ดี วิธีนี้ซับซ้อนและเกินขอบเขตของบทความนี้ จึงขอกลับมาที่การใช้อี้จิงเป็นหลัก ซึ่งไม่ซับซ้อนแต่ต้องอาศัยประสบการณ์ในการตีความสัญลักษณ์

โดยสรุป การใช้ศาสตร์อี้จิงเลือกเวลาชาร์จหินคือการถามและตีความสัญลักษณ์เพื่อหาช่วงที่ “ฟ้าเปิด” เหมาะแก่การเติมพลังให้หินมากที่สุด ถือเป็นการปรับพิธีชาร์จหินให้มีความเฉพาะบุคคลและสอดคล้องกับธรรมชาติและจักรวาลในขณะนั้น

ข้อดีของการใช้อี้จิงเทียบกับวิธีชาร์จหินอื่น ๆ
แม้ว่าวิธีชาร์จหินแบบดั้งเดิม (เช่น แสงจันทร์ แสงแดด น้ำ ดิน ฯลฯ) จะได้รับความนิยมและใช้ได้ผลดีในตัวเอง

การนำอี้จิงมาใช้เสริมมีข้อดีเฉพาะตัวหลายประการ ดังนี้:

1.เจาะจงและแม่นยำตามสภาวะพลังงาน: การใช้อี้จิงช่วยให้เราได้รับคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงสำหรับหินก้อนนั้น ๆ และช่วงเวลานั้น ๆ ต่างจากการใช้แสงจันทร์หรือแดดซึ่งมักเป็นสูตรตายตัว (เช่น “คืนวันเพ็ญทุกเดือนเอาหินมาวางรับแสงจันทร์”) อี้จิงอาจชี้ว่าบางเดือนบางคืนแม้พระจันทร์เต็มดวงแต่พลังโดยรวมไม่เกื้อหนุน (เช่นอาจมีปรากฏการณ์จันทรุปราคา หรือพลังดาวอื่นแทรก) ก็ควรรอไปก่อน หรือในทางกลับกัน หากไม่ได้ตรงคืนเพ็ญแต่กว้าที่เสี่ยงทายบ่งชี้มงคล เราก็อาจชาร์จหินได้เลย การปรับแบบนี้ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนกับพลังจักรวาล ณ ขณะนั้นจริง ๆ เป็นการ “ทำถูกที่ถูกเวลา” ตามหลักโหราศาสตร์จีน


2.ผสานพลังจักรวาลหลายมิติ: วิธีธรรมชาติโดยทั่วไปมักอิงพลังใดพลังหนึ่งเป็นหลัก เช่น แสงจันทร์ก็อาศัยพลังหยินจากดวงจันทร์, แสงแดดอาศัยพลังหยางจากดวงอาทิตย์, น้ำอาศัยพลังธาตุน้ำชำระล้าง เป็นต้น แต่การใช้อี้จิงจะพิจารณาภาพรวมของพลังหยิน-หยางและธาตุทั้งห้าที่แฝงอยู่ในช่วงเวลานั้นด้วย ทำให้การชาร์จหินไม่ใช่แค่รับพลังจากดวงใดดวงหนึ่ง แต่เป็นการ จูนพลังของหินให้สอดรับกับพลังแวดล้อมทั้งหมด

ตัวอย่างเช่น หากอี้จิงแนะนำกว้าที่มีข่วยสายฟ้า/ไม้และฝน/น้ำ ประกอบกัน อาจตีความว่าเวลาที่เหมาะคือช่วงพายุก่อนฝนตก (มีทั้งพลังไม้และน้ำ) ซึ่งการนำหินออกไปรับน้ำฝนธรรมชาติช่วงนั้น (หากทำได้อย่างปลอดภัย) จะช่วยชำระล้างและเติมพลังให้หินอย่างมาก เพราะเป็นไปตามสัญลักษณ์ที่กว้าบอก นี่เป็นตัวอย่างสมมุติที่แสดงว่าอี้จิงสามารถชี้แนวทางที่ผสมผสานพลังธรรมชาติหลายด้าน มากกว่าหนึ่งมิติ


3.สืบทอดภูมิปัญญาโบราณ: การใช้อี้จิงในการเลือกฤกษ์ยามมีรากฐานจากธรรมเนียมจีนโบราณที่นิยม “择日” (เจ๋อร์ยื้อ) หรือการ择ฤกษ์ เช่น การหาฤกษ์แต่งงาน ยกบ้าน ออกรบ ซึ่งล้วนเชื่อว่าการกระทำในวันเวลาอันเป็นมงคลจะช่วยหนุนให้กิจการราบรื่น ปลอดภัย ประเพณีนี้สืบทอดมาจนปัจจุบัน เช่น ในศาสตร์ฮวงจุ้ยสมัยใหม่ ก็ยังแนะนำให้ผู้นำวัตถุมงคลไป “ล้างและชาร์จใต้แสงจันทร์คืนวันเพ็ญ” เพื่อเพิ่มพลัง​

ซึ่งสอดคล้องกับที่คนโบราณทำ ในแง่นี้ การใช้อี้จิงชาร์จหินจึงเป็นการนำศาสตร์โบราณกลับมาใช้ในบริบทใหม่ (การบำบัดคริสตัล) ทำให้ผู้ปฏิบัติรู้สึกเชื่อมโยงกับภูมิปัญญาเก่าแก่ เพิ่มความขลังและความมั่นใจในพิธีกรรม ทั้งยังมีแหล่งข้อมูลสนับสนุนจากตำราจีน เช่นที่กล่าวว่า การปรับชีวิตให้สอดคล้องกับชี่และธาตุจะนำมาซึ่งโชคดีและขจัดอุปสรรค​

4.ประสานกับวิธีอื่นได้ ข้อดีอีกอย่างคือศาสตร์อี้จิงไม่ใช่สิ่งที่มาแทนวิธีชาร์จหินแบบเดิม แต่สามารถใช้ร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น แสงจันทร์ถือเป็นวิธีชาร์จหินที่นิยมที่สุดวิธีหนึ่ง เพราะอ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับหินทุกชนิด (ไม่ทำให้สีซีดหรือแตกหัก) ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า “พลังงานอ่อนโยนสะท้อนของดวงจันทร์เหมาะอย่างยิ่งในการชาร์จคริสตัล และถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลกับคริสตัลทุกประเภท เนื่องจากอ่อนโยนและไม่เสี่ยงทำอันตรายหิน”​

ดังนั้นเราอาจใช้ อี้จิงเพื่อเลือกว่าคืนไหนหรือช่วงไหนของรอบจันทร์ ที่จะวางหินรับแสงจันทร์แล้วได้พลังสูงสุด (เช่น อาจไม่ได้คืนเพ็ญเป๊ะ ๆ แต่เป็นคืนข้างขึ้น 12–13 ที่กว้าบอกว่าดี ก็ทำได้) เช่นเดียวกับวิธีแสงแดดซึ่งทรงพลังมากในการชาร์จหินที่ชอบพลังหยางแรง ๆ (ดวงอาทิตย์ให้พลังชีวิตและความสร้างสรรค์แก่หินประเภทซิทริน เคลียร์ควอตซ์ ไพไรต์ เป็นต้น​

เราก็อาจใช้อี้จิงเลือกชั่วโมงที่แดดดีที่สุดหรือวันที่แสงแดดบริสุทธิ์ (ไม่มีพายุหรือเมฆหม่นทางโหร) เพื่อชาร์จ นอกจากนี้การฝังดินหรือแช่น้ำก็เช่นกัน การใช้อี้จิงจะช่วยบอกว่าควรทำวิธีไหนเมื่อใด – เช่น หากกว้าที่เสี่ยงทายขึ้นมาเป็นธาตุน้ำเด่น (ข่วยคาน น้ำ) ก็อาจเลือกวิธีแช่น้ำชำระล้างตามด้วยตากจันทร์ (เพราะน้ำกับจันทร์เป็นหยินคู่กัน)​

แต่หากได้ข่วยภูเขาหรือดิน (เกิ้น/คุน) ก็อาจเหมาะกับการฝังดิน เป็นต้น จะเห็นว่าการใช้อี้จิงเปิดทางให้เราประยุกต์วิธีการชาร์จแบบต่าง ๆ รวมเข้าด้วยกันอย่างมีเหตุผลบนพื้นฐานธาตุ ซึ่งจะให้ผลดียิ่งขึ้นกว่าการใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเดี่ยวๆ


5. เสริมแง่มุมจิตวิญญาณ: นอกเหนือจากการชาร์จพลัง ทางกายภาพพลังงาน ที่หินได้รับ การใช้อี้จิงยังให้ประโยชน์ทางจิตใจกับผู้ปฏิบัติ เพราะกระบวนการเสี่ยงทายและตีความเปรียบเสมือนการทำสมาธิและสื่อสารกับจิตใต้สำนึก/พลังงานรอบตัว ผู้ปฏิบัติจะได้ไตร่ตรองความหมายของกว้า ซึ่งมักมีแง่คิดคำสอนแฝงอยู่ การชาร์จหินด้วยวิธีนี้จึงไม่ใช่แค่ “วางหินตากแดด/จันทร์” แล้วจบ

แต่กลายเป็นพิธีกรรมเล็ก ๆ ที่เราตั้งจิตอธิษฐานและรับสารจากจักรวาล ผ่านข้อความของอี้จิง ผลลัพธ์คือเราเกิดความเชื่อมั่นและตั้งใจแน่วแน่ยิ่งขึ้น ซึ่งตามหลักคริสตัลบำบัดนั้น “เจตนา” (intention) ของผู้ใช้ถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะเสริมพลังให้หิน การตั้งจิตผ่านพิธีอี้จิงจึงช่วยเติมพลังให้หินทางอ้อมอีกทาง


แน่นอนว่าวิธีอี้จิงนี้ก็มีข้อพึงระวัง คือ ผู้ใช้ต้องมีความรู้พื้นฐานในการตีความอี้จิง ไม่เช่นนั้นอาจ解釋ผิดพลาดได้ ในขณะที่การวางหินตากแดดหรือจันทร์นั้นทำได้ง่าย ใครก็ทำได้ไม่ต้องมีความรู้ อย่างไรก็ดี ในยุคปัจจุบันมีตำราและผู้เชี่ยวชาญมากมาย สามารถศึกษาหรือขอคำปรึกษาเพื่อใช้ศาสตร์อี้จิงได้อย่างถูกต้อง

แนวคิดเรื่องการเลือกฤกษ์มงคลเพื่อเสริมพลังงานเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมจีน ดังจะเห็นได้จากการใช้อี้จิงและปฏิทินจีนในแทบทุกพิธีสำคัญตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน กรณีการชาร์จพลังหินเอง แม้จะเป็นการประยุกต์ในบริบทใหม่ แต่ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากหลักการเดียวกันกับที่คนจีนโบราณใช้เลือกวันทำสิ่งมงคลอื่น ๆ ดังนั้นเราจึงพบแหล่งข้อมูลทั้งโบราณและสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ ตัวอย่างเช่น:

คัมภีร์อี้จิงและคำอธิบายโบราณ: ในส่วน “คำพิพากษา” และ “คำอธิบายเส้น” ของกว้าแต่ละบท มักจะใช้คำว่า “吉” (จี๋, ดี) หรือ “凶” (ซง, ร้าย) กำกับ เพื่อบอกผลของการกระทำนั้น ๆ ภายใต้สภาวะเวลานั้น ๆ ซึ่งนี่คือแนวคิดเรื่องฤกษ์ดีฤกษ์ร้ายโดยตรง ขงจื้อได้เขียนคำอธิบายไว้ใน “ตี๋กว้า” (ภาคคำอธิบายประกอบ) ว่า การรู้จักปฏิบัติตามกฎฟ้าดินจะส่งผลให้ชีวิตสำเร็จ​

และการขืนทำสิ่งใดในยามที่ดวงไม่เกื้อหนุนย่อมเกิดความยากลำบาก จึงควรอดทนรอจังหวะที่เหมาะสม​


ข้อความเหล่านี้ในคัมภีร์โบราณเป็นหลักฐานชัดเจนว่าหลักการอี้จิงเกี่ยวพันกับการเลือกเวลามงคลมาช้านาน


6.หลักฮวงจุ้ยและปฏิทินจีน: ฮวงจุ้ยซึ่งเป็นศาสตร์จีนอีกแขนงหนึ่งที่มีรากฐานจากอี้จิง มีการใช้ปฏิทินเลือกฤกษ์อย่างเป็นระบบ ปฏิทินทง슈ระบุวันดี-วันร้ายสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ และในทุกปีจะมีช่วง “เดือนผี” หรือช่วงที่พลังไม่ดี เตือนให้งดทำพิธีสำคัญ สิ่งเหล่านี้สะท้อนแนวคิดเดียวกัน คือนัยว่าช่วงเวลาต่างกันมีพลังต่างกัน การเลือกเวลาที่พลังดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสิ่งที่ทำ แม้การชาร์จคริสตัลจะไม่ใช่กิจกรรมที่ระบุไว้ในปฏิทินจีนโบราณโดยตรง แต่หลักคิดสามารถนำมาปรับใช้ได้ เช่น เว็บไซต์ฮวงจุ้ยบางแห่งในปัจจุบันก็แนะนำให้นำวัตถุมงคล (รวมถึงกำไลหินนำโชค) ไปชำระและชาร์จในคืนวันเพ็ญ เพื่อให้วัตถุนั้น “ได้รับพลังงานดีแรงกล้าจากแสงจันทร์ตลอดคืน”​


นี่คือการปฏิบัติยุคปัจจุบันที่ยังยึดตามหลักโบราณว่าพระจันทร์เพ็ญคือฤกษ์ดีในการชำระของ


7.การผสมผสานกับศาสตร์พลังหินตะวันตก: ในทางตะวันตก วงการคริสตัลบำบัดก็มีแนวคิดเรื่อง “ชาร์จคริสตัลตามรอบดวงจันทร์/ดวงอาทิตย์” และ “ใช้ธาตุธรรมชาติที่สอดคล้อง” อย่างแพร่หลาย เช่น คู่มือการชำระและชาร์จคริสตัลหลายเล่มกล่าวว่า แสงจันทร์คืนเพ็ญเป็นพลังที่ทรงพลังที่สุดในการชาร์จคริสตัล เพราะเป็นช่วงที่พลังของดวงจันทร์ถึงจุดสูงสุด​


และ แสงแดดยามเช้าหรือช่วงอีควิน็อกซ์ก็เป็นช่วงที่ดีในการเติมพลังชีวิตให้หินบางชนิด ตลอดจนเตือนเรื่องความปลอดภัย เช่น หินบางชนิด (อะเมทิสต์ โรสควอตซ์ เป็นต้น) ไม่ควรถูกแดดแรงนาน ๆ เพราะสีจะซีดจาง​


สิ่งเหล่านี้เป็นภูมิปัญญายุคใหม่ที่พิสูจน์ว่าแนวคิดของการเลือกเวลาที่เหมาะสม (ฤกษ์) ในการชาร์จหินนั้นได้รับการยอมรับกว้างขวางพอสมควรอยู่แล้ว ทั้งโลกตะวันออกและตะวันตก และการใช้อี้จิงก็เป็นเพียงอีกเครื่องมือหนึ่งที่สามารถเสริมความแม่นยำในการเลือกเวลานั้น


8.เสียงสะท้อนจากผู้ใช้ยุคใหม่: ในยุคปัจจุบันมีนักพยากรณ์และผู้สนใจอี้จิงจำนวนมากทั่วโลก มีการสนทนาแบ่งปันประสบการณ์ออนไลน์เกี่ยวกับการใช้อี้จิงในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการถามเรื่องเวลาที่เหมาะในการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ผู้ใช้บางรายตั้งคำถามว่า ทำไมปัจจุบันคนไม่ค่อยใช้ I Ching ในการเลือกฤกษ์ยามเหมือนที่ใช้โหราศาสตร์อื่น ๆ ซึ่งก็มีผู้ให้ความเห็นว่าอี้จิงนั้นแม่นในทางให้ข้อคิด แต่อาจต้องการทักษะตีความสูงในการใช้เลือกเวลาที่เจาะจง อย่างไรก็ดี ก็มีระบบที่พยายามเชื่อมโยงกว้ากับปฏิทินเพื่อใช้งานดังกล่าวอย่างจริงจังเช่นกัน​

กล่าวได้ว่าประเด็นนี้ได้รับความสนใจในหมู่ผู้ศึกษาศาสตร์พยากรณ์ และมีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาใช้ประโยชน์มากขึ้นเรื่อย ๆ


การใช้อี้จิงเพื่อกำหนดฤกษ์มงคลในการชาร์จพลังงานหินนั้นเป็นการผสมผสานภูมิปัญญาตะวันออกโบราณเข้ากับศาสตร์คริสตัลบำบัดร่วมสมัย โดยอาศัยหลักหยิน-หยางและธาตุในการเลือกช่วงเวลาที่พลังงานของฟ้า ดิน และมนุษย์ (天地人) กลมกลืนกัน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้หินรับพลังได้เต็มที่และคงพลังนั้นได้นานกว่าการชาร์จตามอำเภอใจ ข้อดีคือเกิดความเฉพาะเจาะจงและประสิทธิผลสูงสุด แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ก็ควรศึกษาและใช้อย่างมีวิจารณญาณควบคู่ไปกับวิธีมาตรฐานอื่น ๆ เช่น การทำความสะอาดหินทางกายภาพและการตั้งจิตอธิษฐานที่ถูกต้อง เมื่อดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความตั้งใจดีและความรู้ที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะชาร์จหินด้วยวิธีใด หินของท่านก็จะได้รับพลังงานด้านบวกและพร้อมช่วยส่งเสริมชีวิตท่านได้อย่างเต็มที่ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจ

#IChing #อี้จิง #พยากรณ์จีน #ฤกษ์มงคล #CrystalEnergy #ชาร์จหิน #พลังงานหิน #FengShui #ฮวงจุ้ย #หินนำโชค #คริสตัลบำบัด #EnergyHealing #ดวงจีน #พลังธาตุ #ศาสตร์จีน #เสริมดวง #Horoscope #Divination

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้