Last updated: 31 ส.ค. 2567 | 3599 จำนวนผู้เข้าชม |
หลักการพื้นฐานของฮวงจุ้ยคือการประสานการดำรงอยู่ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ปรัชญานี้ชี้ให้เห็นว่าโลกถูกขับเคลื่อนโดยพลังที่มองไม่เห็นซึ่งเชื่อมโยงจักรวาล โลก และมนุษยชาติไว้ด้วยกัน หรือที่เรียกว่าชี่ (หรือ Chi) ฮวงจุ้ยเกี่ยวข้องกับการวางตำแหน่งอาคาร วัตถุ และพื้นที่ในสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดความสมดุลและความสอดคล้องกับพลังเหล่านี้ และเพื่อให้ชี้ไหลได้อย่างราบรื่น
ฮวงจุ้ยคือการจัดการ
พลังงาน 3 พลังงานเข้าด้วยกัน
พลังงานที่มีผลกับชะตาชีวิตได้แก่
พลังงานฟ้า พลังงานคน พลังงานดิน
พลังงานคน
เป็นพลังงานที่มาจากความสามารถ ความพยายามและฝีมือของคุณ พลังงานคนเป็นพลังงานที่ทุกคนสามารถพัฒนาได้ ถึงแม้นว่าคุณจะเกิดในฤกษ์ยามที่แย่มากๆ หรือเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน มีบ้านที่ฮวงจุ้ยไม่ดี แต่การที่คุณมีความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ คุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
กฎแห่งความสำเร็จ ถ้าคุณอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญ คุณต้องฝึกฝนพยายามอย่างน้อย 10,000 ชั่วโมง
พลังฟ้า
คือ พลังจักรวาลที่ประจุตอนเกิด
เป็นพลังงานที่อยู่กับเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดขึ้นมาบนโลก แบ่งออกเป็นพลังงานธาตุต่างๆ ที่แยกออกเป็น 5 ธาตุ 10 ประเภท ซึ่งประกอบเป็นชะตาบุคคลตามปี เดือน วัน ยาม
แต่ละคนได้พลังงานฟ้าไม่เหมือนกัน แต่ด้วยวิธีการจัดการจูนจิต ตามหลัก NLP (Neuro Linguistic Programming) และหลักการจัดฮวงจุ้ย บวกกับความขยัน หมั่นเพียรจะทำให้คนทุกคนประสบผลสำเร็จได้ใกล้เคียงกัน
การที่เรารู้ดวง ก็เหมือนเรารู้แผ่นที่ชีวิต ทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างไม่ประมาท เป็นนายของโชคชะตา
การใช้พลังงานที่มาตามฤกษ์ที่ดี ก็จะส่งเสริมส่งเสริมกับดวงบุคคล
เราจึงต้องเลือกฤกษ์ที่ถูกต้อง เพื่อเลือกพลังงานจากฟ้าที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์คลอด ฤกษ์กระตุ้นโชคประจำเดือน
การเลือกฤกษ์ที่ดี สามารถทำให้เราปรับจูนชะตาคน และชะตาดิน ให้ข้ากับชะตาฟ้า ให้สมบูรณ์มั่งคั่งยิ่งขึ้น
พลังงานดิน
การจัดฮวงจุ้ย
เป็นพลังสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเรา ที่มากับลมและน้ำบนพื้นที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโด สำนักงาน
ออฟฟิส โรงงาน ซึ่งอาจแตกต่างในรายละเอียดแต่ส่งผลตรงกับเรา
หลักวิชาฮวงจุ้ยบนหลักที่อิงวิทยาศาสตร์ ไม่รื้อ ไม่ทุบ
หัวใจของการดูฮวงจุ้ย ต้องดูให้ครบทั้ง 4 แกนหลัก
สรุปการทำงานของอาจารย์ณัฐ เน้นที่การตรวจชัยภูมิเป็นหลัก และนำวิชา ดาวเหิน ปราณ8 ทิศ มาเสริม โดยกระตุ้นทรัพย์ด้วยการหาประตูมังกรเพิ่มด้วยวิชา 64 ข่วย เปิดคลังทรัพย์ของแต่ละบุคคล และกระตุ้นพลังงานจากฟ้าให้ถูกฤกษ์ ถูกยามที่ส่งผลดีที่สุด
ก่อนอื่น เราลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับฮวงจุ้ยพื้นฐานกันก่อนนะครับ
ฮวงจุ้ยเป็นแนวทางปฏิบัติของจีนโบราณที่มีมาเป็นเวลาหลายพันปี โดยมีการประมาณการบางอย่างย้อนหลังไปถึงกว่า 6,000 ปี คำว่าฮวงจุ้ยแปลตรงตัวว่า "ลม" (ฮวง) และ "น้ำ" (จุ้ย) ซึ่งเป็นธาตุสองธาตุที่ไหลเวียนอยู่ในโลก มีพื้นฐานมาจากความเข้าใจในธรรมชาติของลัทธิเต๋า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวคิดที่ว่าดินแดนนี้มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังชี่หรือพลังงาน
หลักการของฮวงจุ้ย:
หลักการพื้นฐานของฮวงจุ้ยคือการประสานการดำรงอยู่ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ปรัชญานี้ชี้ให้เห็นว่าโลกถูกขับเคลื่อนโดยพลังที่มองไม่เห็นซึ่งเชื่อมโยงจักรวาล โลก และมนุษยชาติไว้ด้วยกัน หรือที่เรียกว่าชี่ (หรือ Chi)
ฮวงจุ้ยเกี่ยวข้องกับการวางตำแหน่งอาคาร วัตถุ และพื้นที่ในสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดความสมดุลและความสอดคล้องกับพลังเหล่านี้ และเพื่อให้พลังงานชี่ไหลได้อย่างราบรื่น
ประวัติความเป็นมาของฮวงจุ้ย:
ฮวงจุ้ยมีต้นกำเนิดในจีนโบราณ ซึ่งใช้ในการปรับทิศทางอาคารต่างๆ ซึ่งมักเป็นโครงสร้างที่มีความสำคัญทางจิตวิญญาณ เช่น สุสาน แต่ยังรวมไปถึงที่อยู่อาศัยและโครงสร้างอื่นๆ ในลักษณะที่เป็นมงคล ขึ้นอยู่กับรูปแบบเฉพาะของฮวงจุ้ยแต่ละสำนัก ดาราศาสตร์ และความเชื่อที่ว่าดินแดนที่เต็มไปด้วยพลังชี่ที่ดีจะนำความโชคดีมาให้
ฮวงจุ้ยแบ่งออกเป็น 2 สำนัก หรือ 2 กลุ่มวิชาหลักๆคือ
ในศาสตร์ของ ฮวงจุ้ย มีการแบ่งกลุ่มวิชาออกเป็นสองกลุ่มหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์และปรับพลังงานเพื่อเสริมสร้างความสมดุลและโชคลาภในชีวิตของมนุษย์ กลุ่มวิชาทั้งสองนี้มีหลักการและวิธีการที่แตกต่างกัน คือ กลุ่มวิชาซาฮะ และ กลุ่มวิชาซำง้วง มาทำความเข้าใจทั้งสองกลุ่มวิชานี้กันครับ
1. กลุ่มวิชาซาฮะ (ระบบธาตุแท้)
กลุ่มวิชาซาฮะ เป็นกลุ่มวิชาที่เน้นการวิเคราะห์พลังงานโดยใช้ ระบบธาตุแท้ ซึ่งประกอบด้วย 5 ธาตุหลัก ได้แก่ ไม้, ไฟ, ดิน, โลหะ, และน้ำ ระบบธาตุแท้นี้ถูกใช้เพื่อวิเคราะห์พลังงานและความสัมพันธ์ระหว่างธาตุต่างๆ ในธรรมชาติ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างธาตุกับดวงชะตาของบุคคลและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ระบบธาตุแท้ ใช้ในการวิเคราะห์ความสมดุลของพลังงานในสถานที่และร่างกายมนุษย์ โดยแต่ละธาตุมีลักษณะและคุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจง เช่น ธาตุไม้สื่อถึงการเจริญเติบโตและการพัฒนา ธาตุไฟสื่อถึงพลังงานที่กระตือรือร้นและการเปลี่ยนแปลง ธาตุดินสื่อถึงความมั่นคงและการเลี้ยงดู ธาตุโลหะสื่อถึงความชัดเจนและความเป็นระเบียบ และธาตุน้ำสื่อถึงความยืดหยุ่นและความลึกลับ
ในการวิเคราะห์ฮวงจุ้ยด้วยระบบธาตุแท้ นักฮวงจุ้ยจะดูว่าธาตุใดขาดหายไปหรือมีมากเกินไปในพื้นที่หรือในดวงชะตาของบุคคล จากนั้นจะทำการปรับสมดุลโดยการเสริมธาตุที่ขาดหายไปหรือลดธาตุที่มีมากเกินไป เช่น การใช้สี วัสดุ และทิศทางที่สอดคล้องกับธาตุที่ต้องการเสริม
2. กลุ่มวิชาซำง้วง (ระบบธาตุของข่วย หรือ 64 ข่วย)
กลุ่มวิชาซำง้วง เป็นกลุ่มวิชาที่เน้นการวิเคราะห์พลังงานโดยใช้ ระบบธาตุของข่วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับ 64 ข่วย (Hexagrams) ที่มาจากคัมภีร์ อี้จิง (I Ching) ข่วยแต่ละข่วยมีการผสมผสานของเส้นเต็ม (หยาง) และเส้นขาด (หยิน) จำนวน 6 เส้น ที่แสดงถึงสถานการณ์และพลังงานเฉพาะที่เกิดขึ้นในชีวิต ข่วยทั้ง 64 นี้ถูกมองว่าเป็น รหัส DNA ของพลังงาน ที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของพลังงานในธรรมชาติและชีวิตมนุษย์
ระบบธาตุของข่วย ใช้ในการวิเคราะห์พลังงานของสถานที่หรือบุคคลโดยดูจากลักษณะของข่วยที่ปรากฏ ข่วยแต่ละข่วยมีความหมายเฉพาะเจาะจงและสอดคล้องกับทิศทาง ธาตุ เวลา และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิต การวิเคราะห์ข่วยช่วยให้เข้าใจถึงพลังงานที่เคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ
ข่วยแต่ละตัวใน 64 ข่วยสามารถแบ่งออกเป็นธาตุ 5 ธาตุเช่นเดียวกับระบบธาตุแท้ แต่มีการประยุกต์ใช้ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นในการวิเคราะห์พลังงานที่ละเอียดและลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยข่วยจะถูกใช้ในการทำนายอนาคต การเลือกทิศทางที่เป็นมงคล หรือการปรับแต่งฮวงจุ้ยในบ้านหรือสำนักงานให้สอดคล้องกับพลังงานที่ดี
ความแตกต่างและการใช้งาน
กลุ่มวิชาซาฮะ (ระบบธาตุแท้) เน้นการวิเคราะห์และปรับสมดุลพลังงานโดยพิจารณาจาก 5 ธาตุหลักและความสัมพันธ์ระหว่างธาตุต่างๆ ซึ่งเหมาะสำหรับการวิเคราะห์และปรับสมดุลพลังงานในระดับพื้นฐาน เช่น การเลือกสี การจัดวางสิ่งของ หรือการเลือกวัสดุในการตกแต่งบ้านหรือสำนักงาน
กลุ่มวิชาซำง้วง (ระบบธาตุของข่วย หรือ 64 ข่วย) เน้นการวิเคราะห์พลังงานที่ลึกซึ้งและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยใช้ข่วยทั้ง 64 เพื่อวิเคราะห์พลังงานที่เคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์และเวลาต่างๆ ระบบนี้เหมาะสำหรับการทำนายอนาคต การเลือกทิศทางที่เป็นมงคล และการปรับแต่งฮวงจุ้ยในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ปกติผมเลือกใช้กลุ่มวิชาซาฮะในการดูดวง และวิเคราะห์พลังงาน หาความสัมพันธ์ระหว่างธาตุต่างๆ เพื่อสร้างความสมดุลและเสริมพลังงานที่ดี
ส่วนในการจัดฮวงจุ้ย ผมเลือกใช้กลุ่มวิชาซำง้วง ใช้ในการวิเคราะห์พลังงานโดยละเอียดผ่านระบบข่วย 64 เพื่อทำนายและปรับเปลี่ยนพลังงานในสถานการณ์และเวลาต่างๆ
เป้าหมายของฮวงจุ้ย:
เป้าหมายของฮวงจุ้ยภายในพื้นที่อยู่อาศัย คือการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวก สิ่งนี้สามารถทำได้โดยการพิจารณาอย่างรอบคอบว่าองค์ประกอบใดบ้างที่ถูกนำเข้ามาในพื้นที่ วางตำแหน่งอย่างไร และมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างไร
มันไม่ได้เกี่ยวกับสุขภาพกายและความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขโดยทั่วไปด้วย
การนำฮวงจุ้ยไปใช้:
ในการจัดฮวงจุ้ย จะใช้เครื่องมือ เช่น แผนที่ Bagua และเข็มทิศฮวงจุ้ย หรือ Luo Pan เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างอวกาศและการไหลของพลังชี่
Bagua เป็นแผนที่พลังงานที่เกี่ยวข้องกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิต เช่น ความมั่งคั่ง สุขภาพ ครอบครัว และอาชีพ การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องภายในบ้านหรือที่ทำงาน เชื่อว่าเราสามารถมีอิทธิพลต่อชีวิตของตนเองในทางบวกได้
ฮวงจุ้ยสมัยใหม่:
ปัจจุบัน ฮวงจุ้ยไม่เพียงแต่ใช้ในประเทศจีนเท่านั้นแต่ยังใช้ทั่วโลกอีกด้วย มันมีอิทธิพลต่อการออกแบบตกแต่งภายใน การวางผังเมือง และแม้แต่การดำเนินธุรกิจ การปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยสมัยใหม่มักผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมเข้ากับจิตวิทยาสิ่งแวดล้อมร่วมสมัยและหลักการออกแบบ
ฮวงจุ้ยยังเชื่อมโยงแนวคิดของ ชี่ กับองค์ประกอบทั้งห้า (ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ)ในทิศของปากัว, และชี่ก็ถูกมองผ่านเลนส์ของหยินและหยางเช่นกัน การสร้างสมดุลระหว่างพลังหยินและหยางในพื้นที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่า Qi จะไหลเวียนไปในทิศทางที่สมดุลและกลมกลืน ถูกต้อง
ผมจะพิจารณา Qi ของแต่ละบุคคลเช่นกัน พลังชี่ส่วนบุคคลได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น วันเกิด สุขภาพ และสภาวะทางอารมณ์ คำแนะนำเกี่ยวกับฮวงจุ้ยอาจรวมถึงการปรับเปลี่ยนส่วนบุคคลให้เข้ากับบ้าน เพื่อให้พลังงานของแต่ละบุคคลสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยหรือการทำงาน โดยอาจต้องพิจารณาบุคคลที่มีอิทธิพลของบ้าน หรือหาเงินเข้าบ้านมากที่สุด
การปรับแก้กระแสชี่ ผมใช้เทคนิคในการดึงพลังงานชี่ที่ดีเข้ามาสู่บ้านในทิศที่ดี โดยใช้หลัก 64 ข่วย เปิดหาประตูมังกร และใช้อุปกรณ์แก้เล็กน้อยเช่น พัดลมดึงกระแสเข้า ธงชาติ หรือป้ายตั้งหน้าร้าน เมื่อพัดกระแสที่ดีหันกลับมา โดยไม่จำเป็นต้อง เคาะ ตอก เจาะ
อีกส่วนหนึ่งที่ผมใช้ในการจัดฮวงจุ้ย คือ ฮวงจุ้ยปราณ 8 ทิศ หรือ ปากัวเป็นแผนที่แปดเหลี่ยมที่ใช้ในฮวงจุ้ยเพื่อแบ่งพื้นที่ออกเป็นพื้นที่ต่างๆ โดยแต่ละพื้นที่เกี่ยวข้องกับแง่มุมเฉพาะของชีวิต (เช่น สุขภาพ ความมั่งคั่ง ความรัก อาชีพ) ด้วยการวางสิ่งของและจัดสภาพแวดล้อมตาม Bagua เราสามารถปรับปรุงแง่มุมเฉพาะของชีวิตของพวกเราได้
Bagua เป็นเครื่องมือสำคัญในฮวงจุ้ยสำหรับการวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของพลังงานในพื้นที่
โดยทั่วไปแล้ว Bagua จะแสดงเป็นแผนที่รูปทรงแปดเหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยม แต่ละด้านของรูปแปดเหลี่ยมมีความเกี่ยวข้องกับด้านใดด้านหนึ่งของชีวิต และจุดศูนย์กลางแสดงถึงแกนกลางหรือความสมดุลของด้านต่างๆ เหล่านี้
การจัดฮวงจุ้ย:ขึ้นอยู่กับเป้าหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับแต่ละพื้นที่ Bagua แนะนำให้จัดวางวัตถุ สี วัสดุ และวิธีแก้ไขฮวงจุ้ยอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนของพลังงานเชิงบวกและความสมดุลในพื้นที่เหล่านั้น
การสร้างความสมดุลให้กับ Bagua คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมดุลและกลมกลืนซึ่งทุกด้านของชีวิตได้รับการสนับสนุน ศูนย์กลางของบากัว มักเรียกว่าไทเก็กหรือพื้นที่สุขภาพ แสดงถึงความสมดุลและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม การปรับสมดุลพลังงานในแต่ละภาคส่วนสามารถนำไปสู่ความสามัคคีและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในชีวิตของคุณได้
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือแม้ว่า Bagua จะเป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าในฮวงจุ้ย แต่การใช้งานจริง อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่ลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ โดยจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น การวางแนวของอาคาร วันเกิดของผู้พักอาศัย และคุณลักษณะด้านสิ่งแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจง
องค์ประกอบของธาตุทั้ง 5(ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ) ฮวงจุ้ยเน้นถึงความสำคัญของความสมดุลและความกลมกลืนในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงการปรับสมดุลขององค์ประกอบ (ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ) เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีองค์ประกอบใดครอบงำและสร้างความขัดแย้งกัน
วิธีการเน้นความสมดุลขององค์ประกอบในฮวงจุ้ย:
ห้าองค์ประกอบและคุณสมบัติ:
ไม้:เกี่ยวข้องกับการเติบโต การขยายตัว และความยืดหยุ่น
ไฟ:เป็นสัญลักษณ์ของความหลงใหล การเปลี่ยนแปลง และพลังงานอันสูงส่ง
ดิน :แสดงถึงความมั่นคง การบำรุงเลี้ยง และการต่อสายดิน
โลหะ ทอง :สื่อถึงความแม่นยำ ความชัดเจน และความแข็งแกร่ง
น้ำ:หมายถึงการไหล การปรับตัว และจิตใต้สำนึก
วัฏจักรองค์ประกอบ:ฮวงจุ้ยตระหนักถึงวัฏจักรของการสร้างและการทำลายล้างระหว่างองค์ประกอบต่างๆ วงจรของการเกิดอธิบายว่าธาตุหนึ่งหล่อเลี้ยงธาตุอื่นได้อย่างไร (เช่น ไม้เป็นแหล่งไฟ)
วงจรแห่งการทำลายล้างแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบหนึ่งสามารถทำให้อ่อนลงหรือควบคุมอีกองค์ประกอบหนึ่งได้ (เช่น น้ำดับไฟ)
การทำความเข้าใจวัฏจักรเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างสมดุลขององค์ประกอบต่างๆ
ซินแสฮวงจุ้ยจะประเมินองค์ประกอบที่มีอยู่ภายในพื้นที่และพิจารณาว่ามีความไม่สมดุลหรือไม่ ตัวอย่างเช่น หากห้องมีพลังงานไฟมากเกินไป (เช่น สีแดงสด แสงสว่างจ้า) ก็อาจสร้างสภาพแวดล้อมที่ปั่นป่วนหรือร้อนเกินไป การปรับสมดุลด้วยองค์ประกอบที่ส่งเสริมพลังงานความเย็นและความสงบ เช่น น้ำหรือโลหะ ( ธาตุโลหะ ก่อเกิด ธาตุน้ำ ) สามารถช่วยได้ ทั้งนี้จะวิเคราะห์วัฎจักรของธาตุ และองศาทิศทางเป็นส่วนสำคัญ
องค์ประกอบส่วนบุคคล:ฮวงจุ้ยยังสามารถพิจารณาองค์ประกอบส่วนบุคคลของผู้พักอาศัยตามวันเกิดได้อีกด้วย ข้อมูลนี้ใช้เพื่อแนะนำการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมส่วนบุคคลเพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคลที่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่นั้น
การจัดฮวงจุ้ยอาจใช้วัตถุ สี วัสดุ และการตกแต่งต่างๆ เพื่อแสดงและปรับสมดุลองค์ประกอบภายในพื้นที่ ตัวอย่างเช่น การเพิ่มองค์ประกอบไม้อาจเกี่ยวข้องกับการรวมเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือการนำต้นไม้สีเขียวมาใช้ องค์ประกอบโลหะสามารถแสดงด้วยประติมากรรมโลหะหรือวัตถุที่ทำจากโลหะ โดยไม่จำเป็นต้อง รื้อ เคาะ ตอกเจาะ
จะเห็นได้ว่าฮวงจุ้ยมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับองค์ประกอบทั้งห้า ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ องค์ประกอบแต่ละอย่างมีการเชื่อมโยงกันอย่างกลมกลืน อย่างแยกกันไม่ได้โดยเด็ดขาด
ไม้ Wood
คุณสมบัติ:แสดงถึงการเติบโต การขยายตัว ความยืดหยุ่น และความมีชีวิตชีวา
สี: เขียวทุกเฉดสี หรือลายไม้
รูปร่าง:รูปร่างสูงและแนวตั้ง เช่น ต้นไม้และวัตถุเรียงเป็นแนว
ปากัว :เกี่ยวข้องกับพื้นที่ Bagua ตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงกับพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่ ครอบครัว และการเติบโตส่วนบุคคล
การเพิ่มประสิทธิภาพ:รวมเฟอร์นิเจอร์ไม้ ต้นไม้สีเขียว หรือการตกแต่งรูปทรงเสาเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับไม้
ไฟ Fire
คุณสมบัติ:เป็นสัญลักษณ์ของความหลงใหล การเปลี่ยนแปลง ความส่องสว่าง และพลังงานสูง
สี: โทนสีแดง สีส้ม สีเพลิง สีชมพู สีม่วง
รูปร่าง:รูปทรงสามเหลี่ยมและแหลม เช่น ปิรามิดและเทียน
ปากัว :เชื่อมต่อกับพื้นที่ ทิศใต้ และเป็นตัวแทนชื่อเสียง การยอมรับ และความเป็นผู้นำ
การเพิ่มประสิทธิภาพ:ใช้การตกแต่งสีแดงหรือสีเพลิง เทียน และแสงไฟเพื่อเพิ่มพลังไฟ
ดิน Earth
คุณสมบัติ:แสดงถึงความมั่นคง การบำรุง การเชื่อมต่อสายดิน การสะสมและการเลี้ยงดู
สี: โทนสีเอิร์ธโทน เช่น สีเหลืองและสีเบจ
รูปร่าง:รูปทรงสี่เหลี่ยมและแบน เช่น กระเบื้องสี่เหลี่ยมหรือวัตถุเซรามิก
ปากัว :เกี่ยวข้องกับพื้นที่ ส่วนกลาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสมดุล สุขภาพ และความเป็นอยู่โดยรวม
การปรับปรุง:รวมสีเอิร์ธโทนและรูปทรงสี่เหลี่ยมในการตกแต่งของคุณ ธาตุดินสามารถแสดงได้ด้วยเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก
โลหะ Gold
คุณสมบัติ :หมายถึง ความแม่นยำ ความชัดเจน ความแข็งแกร่ง และการจัดระเบียบ การมีระเบียบ
สี: สีขาว สีเมทัลลิก และสีทอง สีเงิน
รูปร่าง:ทรงกลม เช่น ประติมากรรมโลหะและเหรียญ
ปากัว :เชื่อมต่อกับพื้นที่ตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของ Bagua เป็นตัวแทนของอำนาจ คนสนับสนุน ผู้คนที่เป็นประโยชน์ และการเดินทาง
การเพิ่มประสิทธิภาพ:ใช้การตกแต่งด้วยโลหะ ทรงกลม หรือวัตถุที่เป็นโลหะเพื่อเพิ่มพลังงานของโลหะ
น้ำ Water
คุณสมบัติ:เป็นสัญลักษณ์ของการไหล การปรับตัว และจิตใต้สำนึก
สี: สีฟ้า น้ำเงิน เทา และดำ.
รูปร่าง:รูปร่างไม่สม่ำเสมอและไหลลื่น เช่น ลายคลื่นหรือกระจก
ปากัว :เกี่ยวข้องกับพื้นที่ North Bagua ซึ่งเป็นตัวแทนของอาชีพ โอกาส และการเดินทางของชีวิต
การปรับปรุง:รวมคุณลักษณะของน้ำ เช่น น้ำพุ กระจก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพการสะท้อนแสงของน้ำ หรือการตกแต่งสีน้ำเงินและสีดำ
หยินและหยาง: หลักการของหยิน (เฉยๆ, เป็นผู้หญิง) และหยาง (กระตือรือร้น, กล้าแสดงออก, เป็นผู้ชาย) มีความสำคัญในฮวงจุ้ย พื้นที่ที่สมดุลควรมีการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างพลังหยินและหยาง
แน่นอนว่าหลักการของหยินและหยางมีบทบาทสำคัญในฮวงจุ้ย ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดความสมดุลและความกลมกลืนของพื้นที่โดยรวม ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้หยินและหยางในฮวงจุ้ย:
พลังงานหยินและหยาง:
Yin หยิน:หยินแสดงถึงคุณสมบัติที่ไม่โต้ตอบ เปิดกว้าง เลี้ยงดู และเป็นผู้หญิงโดยธรรมชาติ มันเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความมืด ความเงียบ ความนุ่มนวล และการใคร่ครวญ
Yang หยาง แสดงถึงคุณสมบัติที่กระตือรือร้น กล้าแสดงออก กล้าแสดงออก มีชีวิตชีวา และมีความเป็นชาย มันสัมพันธ์กับคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความสว่าง เสียง ความแข็งกระด้าง
ปรับสมดุลหยินและหยาง:
ความกลมกลืน:ฮวงจุ้ยมุ่งหวังที่จะสร้างสมดุลที่กลมกลืนระหว่างพลังงานหยินและหยางภายในพื้นที่ พื้นที่ที่มีหยินมากเกินไปอาจรู้สึกนิ่งและไม่มีชีวิตชีวา ในขณะที่พื้นที่ที่มีพลังหยางอาจรู้สึกท่วมท้นและวุ่นวาย ฮวงจุ้ยที่ดีคือการผสมผสานที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของพื้นที่และความต้องการของผู้อยู่อาศัย
องค์ประกอบของหยินและหยาง:
องค์ประกอบของหยิน:องค์ประกอบต่างๆ เช่น น้ำ สีโทนเย็น พื้นผิวที่นุ่มนวล และรูปทรงโค้งมน
องค์ประกอบของหยาง:องค์ประกอบต่างๆ เช่น ไฟ สีสว่าง พื้นผิวแข็ง และรูปทรงเชิงมุมหรือแหลมคม
การประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ:
ซินแสฮวงจุ้ยพิจารณาคุณสมบัติของหยินและหยางในพื้นที่บากัวที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น พื้นที่ ทิศเหนือ มีความเกี่ยวข้องกับอาชีพและสามารถได้รับประโยชน์จากพลังงานหยางมากขึ้นเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าและการดำเนินการ ในขณะที่พื้นที่ห้องนอนมักแนะนำให้มีพลังงานหยินมากขึ้นเพื่อรองรับการพักผ่อนและผ่อนคลาย
ความสมดุลส่วนบุคคล:ฮวงจุ้ยสามารถปรับให้เป็นส่วนตัวโดยพิจารณาจากพลังงานของผู้อยู่อาศัย ตัวอย่างเช่น บุคคลที่มีนิสัยหยางมากกว่าโดยธรรมชาติอาจได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมในบ้านที่แนะนำคุณสมบัติหยินมากขึ้นเพื่อให้เกิดความสมดุล
สีและการตกแต่ง:การเลือกสี วัสดุ และของตกแต่งสามารถนำมาใช้อย่างมีกลยุทธ์เพื่อปรับสมดุลของพลังงานหยินและหยางในพื้นที่ ตัวอย่างเช่น การเพิ่มเฟอร์นิเจอร์นุ่มๆ เช่น ผ้าม่านและพรม (หยิน) ให้กับห้องที่มีพื้นผิวแข็งเป็นส่วนใหญ่ (หยาง) จะสามารถสร้างบรรยากาศที่สมดุลมากขึ้นได้
การไหลและการเคลื่อนไหว:ฮวงจุ้ยยังคำนึงถึงการไหลและการเคลื่อนที่ของพลังงาน (Qi) ในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งรวมถึงการทำให้แน่ใจว่าพลังงานหยินและหยางมีห้องที่จะไหลเวียนและมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างกลมกลืน
โดยพื้นฐานแล้ว ซินแสฮวงจุ้ยตั้งเป้าที่จะผสมผสานพลังหยินและหยางอย่างสมดุลในพื้นที่เพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีและเป้าหมายของผู้พักอาศัย ความสมดุลนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฟังก์ชันของพื้นที่ ความชอบส่วนบุคคล และพลังงานโดยรวมของสิ่งแวดล้อม เป้าหมายคือการสร้างสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตหรือการทำงานที่สมดุลและกลมกลืนกัน
ผมจะขอสรุปประโยชน์ของการจัดฮวงจุ้ยอีกครั้งนะครับ
ฮวงจุ้ยสามารถปรับปรุงพื้นที่อยู่อาศัย ความเป็นอยู่ที่ดี และนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองและความคิดเชิงบวกได้
ฮวงจุ้ยมักถูกมองว่าเป็นแนวทางในการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพในลักษณะที่ส่งเสริมความสามัคคีและความสมดุล ซึ่งอาจส่งผลต่อพลังงานส่วนบุคคล นี่คือประโยชน์หลักบางประการที่ฮวงจุ้ยมุ่งหวังที่จะให้ได้:
1. ปรับปรุงความเป็นอยู่และสุขภาพ:
ฮวงจุ้ยสามารถส่งเสริมสุขภาพโดยการลดความเครียดและความวิตกกังวลด้วยการจัดพื้นที่เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของพลังชี่ (พลังชีวิต) การให้ความสำคัญกับการขจัดความยุ่งเหยิงและการรักษาสภาพแวดล้อมที่สะอาดยังช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งเอื้อต่อสุขภาพกายและจิตใจที่ดีขึ้น
2. ความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มขึ้น:
ประโยชน์อย่างหนึ่งของฮวงจุ้ยที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือการดึงดูดความมั่งคั่ง พื้นที่เฉพาะในพื้นที่ของคุณ เช่น ภาคตะวันออกเฉียงใต้ตามแผนที่ Bagua เชื่อว่าจะควบคุมความมั่งคั่งส่วนบุคคล การปรับปรุงพื้นที่เหล่านี้ด้วยสี องค์ประกอบ และสัญลักษณ์ที่เหมาะสมอาจนำไปสู่การไหลเวียนและโอกาสทางการเงินที่ดีขึ้น
3. ความสัมพันธ์และความรักที่เพิ่มขึ้น:
ฮวงจุ้ยสามารถใช้เพื่อบำรุงและดึงดูดความรักและความสัมพันธ์ มุมตะวันตกเฉียงใต้ของพื้นที่เกี่ยวข้องกับความรักและการแต่งงาน และการวางสัญลักษณ์โรแมนติก สิ่งของที่จับคู่กัน หรือใช้สีที่เหมาะสม จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและดึงดูดความรักได้
4. ความก้าวหน้าทางอาชีพ:
พื้นที่ทิศเหนือเชื่อมต่อกับเส้นทางอาชีพตามหลักฮวงจุ้ย การเปิดใช้งานพื้นที่นี้ด้วยองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง เช่น น้ำหรือกระจก เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงาน นำไปสู่ความพึงพอใจและการเติบโตในการทำงาน
5. คุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น:
หลักฮวงจุ้ยที่นำไปใช้กับห้องนอนสามารถส่งเสริมการนอนหลับพักผ่อนได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดวางเตียงที่ถูกต้อง การเลือกสีที่ให้ความรู้สึกสงบ และลดการรบกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่งผลให้การนอนหลับและการพักฟื้นดีขึ้น
6. ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่กลมเกลียว:
ภาคตะวันออกมีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวและสุขภาพ การใช้ธาตุไม้และการรักษาสมดุลของธาตุฮวงจุ้ยทั้ง 5 ประการในบริเวณนี้สามารถเสริมสร้างความสามัคคีในครอบครัวและสนับสนุนสุขภาพของสมาชิกได้
7. การเติบโตส่วนบุคคล:
พื้นที่ในบ้านของคุณสามารถปรับให้สอดคล้องกับการเติบโตและความรู้ส่วนบุคคล ด้วยการเสริมภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยธาตุดิน คุณสามารถสร้างพื้นที่ที่เอื้อต่อการไตร่ตรอง การเพาะปลูกด้วยตนเอง และการเรียนรู้ความรู้
8. ความคิดสร้างสรรค์และเด็ก:
ภาคตะวันตกมักเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์และลูกหลาน การเสริมสร้างพื้นที่นี้สามารถสนับสนุนความพยายามในการสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อความเป็นอยู่และพัฒนาการของเด็กภายในบ้าน
9. กระแสพลังงานเชิงบวก:
โดยรวมแล้ว การประยุกต์ใช้หลักฮวงจุ้ยอย่างเหมาะสมจะช่วยให้พลังงานเชิงบวกไหลเวียนได้อย่างราบรื่นทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งสามารถนำไปสู่ความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีและมีชีวิตชีวาสำหรับผู้อยู่อาศัย
10.สุนทรียศาสตร์:
ฮวงจุ้ยมักนำไปสู่สภาพแวดล้อมที่น่าพึงพอใจมากขึ้น ความสมดุลของสี รูปทรง และการจัดวางส่งผลให้พื้นที่อยู่อาศัยสวยงามและกลมกลืน ให้ความรู้สึกสบายและน่าดึงดูดใจ
wealthdecor
shortcut to a goog life
#ฮวงจุ้ย #ดวงจีน
21 พ.ย. 2567
20 พ.ย. 2567